หน้าเว็บ

เป้าหมายหลัก

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สรุปสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 3 -7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
สิ่งที่ได้เรียนรู้เรียน
  1. การวางแผนในการทำงาน
  2. ปัญหาที่เกิด
  3. การเกิดการเรียนรู้
การวางแผนในสัปดาห์ได้ทำกิจกรรมพัฒนาร่างกายและสุนทรียะ เป็นการเต้นประกอบเพลงเพื่อการศึกษา/เพลงร่วมสมัย กิจกรรมเริ่มแรก
  1. ร้องเพลงสวัสดีกล่าวคำทักทาย ร้องเพลงให้ร่างกายได้ตื่นตัว เพลงบอกรักยามอากาศเช้าๆ บริหารสมองซีกซ้ายและซีกขวาด้วยเพลงนิ้วอยู่ไหน สอดแทรกเพลงนับเลขเป็นเพลงนับลูกปลา 5 ตัว 
  2. ขอคาถาวิเศษเรียกดอกบัวน้อย กล่าวทักทายสวัสดีคุณครูมอนีเตอร์ทำหน้าที่นำปฏิบัติ
  3. ถามวันกับเด็กเพื่อให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับวันที่และวันทั้ง 7 ของสัปดาห์เรียนรู้เรื่องจำนวน นับเพิ่ม
  4. วันนี้เป็นวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง วันเเพ็ญเดือน 12 ครูจึงมีเพลงรำวงลอยกระทงมาฝากเด็ก เด็กร้องเพลงรำวงลอยกระทงพร้อมกัน
  5. เด็กออกมารำวงลอยกระทงพร้อมร้องเพลงรำวงลอยกระทง เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายอยู่กับที่และเคลื่อนที่


ผลที่ได้รับจากกิจกรรม
จากการจัดกิจกรรมวันนี้เป็นวันลอดกระทงมีการสอดแทรงเกี่ยวกับวันลอยกระทงไปในเพลงรำวงวันลอยกระทง เด็กตั้งใจร้อง และสังเกตเห็นเด็กบางคนร้องได้แล้ว แต่เด็กบางคนไม่รู้จักเลย เด็กได้เดินรำวงเพลงรำวงวันลอยกระวงเป็นวงกลมได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสนุกสนานจากท่ารำตั้งวงเป็นท่าพื้นฐานของนาฏศิลป์ไทย เด็กบางคนไม่เคยรำก็สังเกตเห็นยังไม่กล้าแสดงออกแต่คุณครูกระตุ้นด้วยคำชมเด็กที่ยังไม่มั่นใจเริ่มกล้าที่จะรำพร้อมกับร้องเพลง

กิจกรรมในวันศุกร์ได้ลงมือปฏิบัติกิรรมในชั้นเรียนตอนเช้า
เช้าเด็กเสร็จจากกิจกรรมกิจกรรมพัฒนาร่างกายและสุนทรียะ กิจกรรมในชั้นเรียนแรกเป็นกิจกรรม Body Scan ให้เด็กได้พักผ่อนร่างกายของตัวเอง ให้ร่างกายของตัวเองได้ผ่อนคลาย ให้สติกับมาอยู่กับตัวเอง เด็กอนุบาลจะนอนเป็นพี่ปลาดาว พี่ปลาดาวมีเจ้าหญิงน้อยเป็นเพื่อน คุณครูเริ่มเล่านิทานเกี่ยวกับเจ้าหญิงน้อยกับแม่มดใจร้าย  ทุกคืนยามที่เจ้าหญิงน้อยเหงานอนไม่หลับ เจ้าหญิงน้อยจะไปมองดูดวงดาวกับดวงจันทร์ที่หน้าต่าง ดวงดาวและดวงจันทร์เป็นเพื่อนเจ้าหญิงน้อยแต่แม่มดพยายามกลั้นแกล้งให้เจ้าหญิงน้อยต้องอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อน แม่มดเห็นว่าเจ้าหญิงน้อยมีเพื่อนเป็นดวงดาวและดวงจันทร์จึงสะกดนำดาวจันท์และดาวดาวไปขังไว้ คืนวันต่อมาเจ้าหญิงน้อยมามองดูพี่ดวงดาวและดวงจันทร์แต่มองแล้วท้องฟ้าเงียบไม่มีสิ่งใดๆว่างเปล่า เจ้าญิงน้อยเห็นเป็นเช่นนั้นจึงนั่งร้องให้ออนวอนของนางฟ้ากับเทวดาให้บอกดวงดาวและดวงจันทร์ให้พาเข้านอน นางฟ้าเทวดาได้ยินเสียงร้องไห้ออนวอนสงสารเจ้าหญิงน้อย จึงมากระซิบบอกให้เด็กส่งพลังร่วมเป็นเพื่อคลายมนต์สะกดของแม่มด เมื่อเด็กที่น่ารักร่วมพลังแล้วมนต์สะกดของแม่มดถูกทำลาย แม่มดนิสัยไม่ดีจึงคลายเป็นก้อนหิน ดวงดาวและดวงจันทร์ก็กลับมาอ่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนส่งให้เจ้าหญิงน้อยหยุดร้องไห้และเข้านอนนอนหลับฝันดี เด็กๆร่วมพลังแล้วท้องฟ้าแจ่มใสให้เด็กเปิดหูวิเศษฟังสัญญาณจากคุณครูให้เด็กที่น่ารักลุกขึ้นนั้งเป็นปลาดาวที่น่ารัก
เบรนยิม  Brain Gym
  1. กำ แบ
  2. แมงมุม
  3. ควาย  3 ตัว
จิตศึกษา
เด็กพับกระดาษแปลงร่างเป็นหมู 
คุณครูเล่าเรื่องเจ้าหญิงต่อจาก กิจกรรม Body Scan  เจ้าหญิงน้อยมีเพื่อนเป็นพี่กบแต่วันนี้พี่กบจะออกไปตามหาเพื่อนเก่าที่จากกันไปนานแสนนาน พี่กบจะออกเดินทาง ครูจะพับที่ละขั้นตอนไปพร้อมกับเด็ก จนออกมาเป็นหมูและถามเด็กว่า พี่กบออกไปตามหาใคร สิ่งที่เด็กพับออกมาเป็นตัวอะไร และตั้งชื่อว่าอะไร
เป้าหมายของการจัดกิจกรรม
  1. เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อมือประสานสัมพันธ์กับตา
  2. มีความคิดจินตนาการสร้างสรรค์
  3. บอกและอธิบายผลงานของตนเองได้
ผลที่ได้จากการทำกิจกรรม
จากกการทำกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับคำแนะนำจากคุณครูแดงและน้องฝึกสอนเพิ่มเติมหลังจากการการทำกิจกรรม ในการเพิ่มเสียงในการพูด การใช้เวลาให้เหมาะสมกับกิจกรรม เป็นการพับที่ง่ายไม่ซับซ้อมเหมาะสมกับวัย

PBL  ของน้องอนุบาลของสัปดาห์นี้
  ครูสร้างแรงโดยการดูการ์ตูนเกี่ยวกับผักผลไม้ หมูบ้านกินผัก และให้เด็กวาดภาพสิ่งที่อยากเด็กเรียนรู้เรื่องอะไร และสรุปเรื่องที่เด็กอยากเรียนรู้ เด็กอยากเรียนรู้เรื่องผักผลไม้ ดอกไม้ และกระต่าย ครูจะขมวดเรื่องที่เด็กอยากรู้เรื่องกระต่ายและดอกไม้ให้อยู่ในเรื่องของผัก เด็กตั้งชื่อเรื่องของโครงงานของตนเอง เด็กจะช่วยกันตั้งชื่อแล้วครูเขียนบนกระดาน รวมเรื่องทั้งหมดที่เป็นเรื่องชื่อที่น่าสนใจ  3 ชื่อ ให้เด็กใช้สิทธิ์คนล่ะ 1  สิทธิ์ยกมือชอบชื่อไหนมากที่สุด สุดท้ายได้ชื่อที่เด็กชอบมากที่สุด คือ ผักจ๋า นาชิม ในสัปดาห์นี้ระหว่างการเดินสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบโรงเรียนในระหว่างเดินสำรวจสร้างแรงโดยการเดินบริเวณที่ผักที่กินได้สดๆและส่งคำถามเกี่ยวกับผักที่เด็กเคยเห็น เคยทาน และผักแต่ล่ะชนิดนำไปทำอะไรได้บ้าง

PBL ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ในสัปดาห์นี้เป็นสัปดห์ของการตั้งชื่อโรงงาน ของพี่ป.1 โดยการใช้เสนอชื่อที่เด็กชอบบนกระดานและยกมือเลือกชื่อที่ชอบมากที่สุด ครูสรุปพี่ป. 1 ชื่อโครงงาน ราชาในวังกระดาษ ครูนำหน้ากากมาให้เด็กดูและถามสิ่งที่ครูนำมาให้ดูทำมาจากอะไรและให้เด็กเขียนสิ่งที่รู้แล้วและสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับกระดาษ 









วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บันทึกวันที่ 22 ตุลาคม 2557
สิ่งที่ได้เรียนรู้

1.ได้ลงมือทำสื่อการเรียนการสอนของการเรียนใน Quarter 3 ในการทำสื่อฝึกให้รู้ว่าเมื่อเราจะทำสื่อแต่ละชิ้นต้องมีลูกเล่น ละเอียดอ่อน เช่น การใช้สีสัน การใช้ตัวอักษรให้ถูกหลัก การใช้ภาษา การสร้างชิ้นงานให้น่าสนใจ เพื่อให้เด็กได้สังเกตจากชิ้นงานได้เกิดการเรียนรู้รวดเร็วมากที่สุด
2.ปรึกษาวางแผนเกี่ยวกับวางการนั่งในชั้นเรียนเพื่อการควบคุมในชั้นเรียนให้ง่ายมากขึ้น
3.เรียนรู้เรื่องแผนฝึกการตั้งคำถามเพราะคำถามเป็นสิ่งสำคัญมากในการเชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้นำไปสู้เป้าหมาย เมื่อมีคำถามต้องมีการคิดให้เกิดคำตอบ

บันทึกการเรียนรู้ของวันที่ 23 ตุลาคม 2557
วันนี้คุณครูทุกคนที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้นำเสนอแผนการเรียนรู้ PBL โครงงาน ของแต่ละชั้น และ  PBL วิชาหลักของแต่ละชั้น
ชื่อแผนการเรียนรู้ PBL
ชั้นอนุบาล เรื่องผัก
ชั้นประถมศึกษาปีที่1 เรื่อง กระดาษ
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 2 เรื่อง ของเล่น
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 3 เรื่อง ระบบสุริยะและจักรวาล
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 4 เรื่อง ของกินท้องถิ่น
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 5 เรื่อง ของเล่นและของใช้ทุ่นแรง
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 6 เรื่อง home
ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 1 เรื่อง การท่องเที่ยว
ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 เรื่อง เงินเงินเงิน
ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 3 เรื่อง เติมกระปุกให้เต็มกระเป๋า
วันนี้ได้เรียนรู้เรื่องแผนความแตกต่างระหว่าชั้นเรียนและการต่อยอดของการเรียนรู้ของ Qaerter 2 ไปสู่ Quarter 3 แต่ละกิจกรรมของแต่ชั้นเด็กได้เรียนรู้จริง ลงมือด้วยตนเอง โดยครูเป็นผู้วางแผนเพื่อที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กได้เกิดความสนใจกระตุ้นให้อย่างที่จะเรียนรู้ เมื่อคุณครูที่เสนอแผนของตนเอง แผนของบางชั้นจะได้คำเสนอแนะจากครูท่านอื่นเพื่อที่จะนำไปปรับใช้กับกิจกรรมให้กิจกรรน่าสนใจมากยิ่งขึ้นได้แง่คิดอีกมุมหนึ่งที่สามารถไปปรับกิจกรรมให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น 
การพูดคุยเรื่องหนังสื่อที่ได้อ่านของคุณครูลำปลายมาศพัฒนาแต่ละคน ได้แง่คิดมุมมองของความรู้สึกที่ถ่ายทอดบอกเล่าให้ฟัง หนังสือแต่ละเล่มที่คุณครูอ่านเป็นหนังสื่อวรรณกรรมต่างปรเะทศ บางเล่มเป็นเรื่องเล่าของชีวิตของตัวละครสอดแทรงความรู้แง่คิดบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย การอ่านหนังสื่อต้องอ่านด้วยหัวใจใช้สมองคิดและตีความเพื่อให้เข้าใจ หนังสื่อบางเรื่องบอกเล่าความทุกข์มากเป็นการสะท้อนความสึกของสังคม ได้มองหันกับมามองที่ตัวเด็กเพื่อปรับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้กับเด็กมากที่สุด






สรุปรายสัปดาห์ที่ 1
สัปดาห์นี้ได้เรียนรู้

พฤติกรรมของเด็กแต่ล่ะคน
  สังเกตพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนเพื่อที่จะจัดการได้ถูกวิธี เพื่อที่เราสามารถเก็บเด็กและทำให้เขาสนใจที่จะเรียนรู้เวลาเราจัดกิจกรรม

การทำจิตศึกษา
  การใช้กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเด็กจะได้ทำสิ่งที่แตกต่างเรียนรู้ที่หลากหลายทั้งประสานสัมผัส การสอดแทรก สี ขนาด พัฒนาการคิด มีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้เด็กทำแล้วได้คิดและสนุกในการทำกิจกรรม สิ่งที่นำมาทำเป็นกิจกรรมเป็นสิ่งที่อยู่รอบใกล้ตัวเด็ก หาได้ง่ายๆ

การใช้ภาษากับเด็ก
  การใช้ภาษากับเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เด็กอนุบาลจะต้องระเอียดอ่อนในการใช้คำพูด ต้องเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย ครูต้องพูดเพราะก่อนที่จะบอกให้เด็กพูดเพราะเพื่อที่จะให้เด็กเกิดการเรียนรู้จากการสังเกตคำพูดของครู ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เคราพซึ่งกันและกัน ส่วนเด็กป.1เขาเริ่มโตแล้ว เขาเริ่มเข้าใจภาษามากขึ้น ครูต้องระวังคำพูดที่ทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี เขาจะสังเกตการคำมากขึ้น บางเรื่องที่ครูพูดเด็กจะเลียนแบบต้องระวังให้มากๆ

การใช้สายตาในการมองเด็ก
  การใช้สายตาต้องมองเด็กในการทำกิจกรรมทุกคนสบตาอย่างอ่อนโยน สบตาเด็กเมื่อเวลาเราพูดกับเขาเพราะการมองตาเขาจะทำให้เขารู้ว่าเราพูดคุยกับเขาด้วยความรัก และสนใจเขาเมื่อเวลาพูดคุยสังเกตเด็กเขาอยากคุยกับเราเขาจะมองหน้าและมองตาเราให้เราคุยกับเขา 

การตั้งคำถาม
  เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กที่จะเกิดการเรียนรู้ ครูต้องตั้งคำถามเป็น ตั้งคำถามที่เป็นปลายเปิด ครูต้องตั้งคำถามก่อนฝึกการตอบที่หลายหลายมาก่อนเพื่อที่จะหาเป้าหมายของเรื่องที่จะเรียนรู้

ครูต้องใจเย็น
  ในการทำงานต้องใจเย็นให้เวลาในการทำงาน รอเขาให้เขาได้ฝึกคิดไม่ต้องเร่งรีบให้เด็กให้เด็กทำงานเร็ว ใช้นาฬิกาเป็นตัวกำหนดฝึกให้เด็กดูนาฬิกาตั้งแต่อนุบาล ให้เด็กจัดการตัวเองมากกว่าที่เราจะไปจัดการตัวเอง ให้เขาดูแลตัวเอง

การทำ Body Scan
- การใช้น้ำเสียงที่อ่อนหวาน ทำให้เด็กได้ผ่อนคลาย การสะกดอารมณ์ของเด็กให้ผ่อนคลายไปตมเสียงพูดของเรา
- การเก็บเด็กเวลาทำกิจกรรมอย่างนิ่มนวลไม่ทำให้เสียบรรยายการ ให้คนที่ดูและตัวเองได้ช่วยดูแลเพื่อนที่ยังดูแลไม่ได้
- การเล่าเรื่องที่เด็กสามารถจินตนาการได้ง่ายที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ปรับพฤติกรรม

การสร้างแรงให้เกิดการเรียนรู้
  สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของการสร้างแรงอนุลาลเรื่องผักพาการสร้างแรงโดยการปลูกตัวผักต่างๆ และพาเขาดูแลต้นผักของตัวเองและสอดแทรกเพลงที่เกี่ยวกับและป.1เรียนเรื่องกระดาษโดยให้โจทย์ที่เป็นปัญหาเด็กทำให้เด็กอยากที่จะเกิดการเรียนรู้ครูพาสังเกตต้นไม้ เขียนกระดาษชนวน ให้งานโดยการไม่ใช้กระดาษ


วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเรียนรู้วันที่ 24 ตุลาคม 2557
คิดชื่อเรื่องหน่วยการเรียนรู้แยกชื่อเรื่องให้เข้ากับการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ 
1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
2. เรื่องราวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อม
3. ธรรมชาติรอบตัว
4. สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก
เพิ่มเติมประสบการสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
1. ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย
2. ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม
3. ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
4. ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา
สอดแทรงพื้นฐานด้านภาษาไทย คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปวิเคราะห์หลักสูตรให้สอดคล้องกับแผนการเรียนรู้
จัดเตรียมห้องเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในวันเปิดเทอมเพื่อให้เกิดความสนใจที่อยากจะเรียนรู้


วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2557

สิ่งที่รับมอบหมาย
1.ทำ Mind map การเรียนรู้ของน้องอนุบาล 1
2.เรียนรู้เกี่ยวกับแผน PBL เรื่องผัก
3.เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งคำถาม การใช้คำถามให้เหมาะสมกับวัย           4.คิดกิจกรรมการเรียนการสอน                                   5.หาสื่อเตรียมเปิดการเรียนการสอนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ



วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกของการทำงานในวันแรกที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา วันที่ 20 ตุลาคม 2557

ช่วงเช้า
- วางแผนงานกับครูยิ้มได้ประจำชั้นอยู่อนุบาล และเข้าชั้นเรียนรู้ PBL ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในช่วงบ่าย
- ปรึกษาเรื่องการเตรียมเปิดเรียนกับคุณครูแดง และน้องฝึกสอน
- เรียนรู้คิดกิจกรรมแผน PBL อนุบาลตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 ถึงสัปดาห์ที่ 9 (เรื่องผัก)

ช่วงบ่าย
- ทำ Mind map การเรียนรู้เรื่องผัก

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

AAR
วันจันทร์ ช่วยเหลือและติดตามผลการนำแผน ผลงาน ขึ้น google stie ของครูโรงเรียนบ้านนาหนุนสอง และช่วยครูตกแต่งห้องเรียนเพื่อเตรียมเปิดเรียน
ปรึกษาและประสานงานและวางแผนงานกับแกนนำโรงเรียนบ้านหนุนสอง พร้อมที่ปรึกษาผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาหนุนเกี่ยวกับ PLC  จัดทำเป็นโครงการสร้างวิถีการสอน ครูงอกนอกกระลา กับโรงเรียนบ้านปงสนุก โรงเรียนสว้า และโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166

วันอังคาร ปรึกษาและประสานงานกับผู้อำนวยการโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166 เกี่ยวกับ PLC  จัดทำเป็นโครงการสร้างวิถีการสอน ครูงอกนอกกระลา กับโรงเรียนบ้านปงสนุก โรงเรียนสว้า และโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166 (อนุบาล)

วันศุกร์ จัด PLC ที่สำนักงานของมูลนิธิเวฟทูไท จัดทำเป็นโครงการ

โครงการสร้างวิถีการสอน“ครูงอกนอกกะลา”
1.ช่ือโครงการ: สร้างวิถีการสอน“ครูงอกนอกกะลา”
2.หลักการและเหตุผล
จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 4 ได้กล่าวถึงแนวทางการจัดการศึกษา

มาตรา 22 ระบุว่า “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสําคัญท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ” เพ่ือให้การศึกษาเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษา ตัวแทนคณะครูจาก โรงเรียนป่ากลางมิตรภาพท่ี 166 โรงเรียนบ้านปงสนุก อําเภอปัว และโรงเรียนบ้านสว้า อําเภอบ่อเกลือ ได้ เดินทางไปศึกษาและแลกเปล่ียนเรียนรู้ท่ีโรงเรียนลําปลายมาศพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ ซ่ึงถือว่าโรงเรียนดัง กล่าวเป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาดังกล่าว
เพ่ือให้การศึกษาดูงานดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้จัดทํา โครงการสร้างวิถีการสอน“ครูงอก นอกกะลา” ซ่ึงเป็นการเชิญตัวแทนคณะครูท่ีได้ไปร่วมอบรมดังกล่าว มาร่วมกันแลกเปล่ียนเรียนรู้ส่ิงท่ีได้รับ จากการอบรม เพ่ือท่ีจะได้ร่วมกันวางแผนนํามาขยายผลในส่วนของการเรียนรู้ วิถี ประสบการณ์ ให้กับคณะ ครูท่ีอยู่ในโรงเรียนของตนท่ียังไม่ได้เข้ารับการอบรม โดยการจัดอบรมในครั้งนี้จะเป็นการสร้างกระบวนการ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี21 ให้มีวิถีและแนวคิดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเช่ือมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียน ในเครือข่าย “ครูงอกนอกกะลา”และครูท่ีเข้าร่วมโครงการ“โรงเรียนสุขภาวะ”ให้มีประสิทธิภาพในการจัดการ เรียนรู้มากย่ิงขึ้น
3.วัตถุประสงค์ 1.เพ่ือให้ครูและบุคลากรของโรงเรียนได้เข้าใจแนวคิดของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ PBL
(Problem – based Learning) 2.เพ่ือให้ครูและบุคลากรสามารถนําความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้จริง 3.เพ่ือให้ครูและบุคลากรเข้าใจแนวทางปฏิบัติซ่ึงสามารถนําไปแก้ไขปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน
4.เป้าหมาย
1. ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านป่ากลางมิตรภาพท่ี 166 จํานวน 7 คน 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านสว้า จํานวน 6 คน
3. ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านปงสนุก จํานวน 5 คน
4. เจ้าหน้าท่ีโครงการ “ครูงอกนอกกะลา” จํานวน 10 คน

5.วันเวลา/สถานท่ีดําเนินงาน
วันศุกร์ท่ี 10 ตุลาคม 2557 เวลา 08.30 น.ถึง 16.30 น. สถานท่ี สํานักงาน“ครูงอกนอกกะลา”

บ้านขอน หมู่ 1 ตําบลปัว อําเภอปัว จังหวัดน่าน
6.วิธีดําเนินงาน (ขั้นตอน / กิจกรรม ระยะเวลา สถานท่ี ผู้เก่ียวข้อง) ในการดําเนินงานจะเป็นการทํากิจกรรม PLC คือ ให้ตัวแทนคณะครูร่วมกันเสนอความคิดและแลก
เปล่ียนประสบการณ์ท่ีได้รับจากการอบรม โดยมีประเด็นคําถามท่ีจะใช้ในวงสนทนา คือ
  • -  ท่านมีความรู้สึกอย่างไรหลังจากไปอบรมท่ีโรงเรียนลําปลายมาศพัฒนา
  • -  ในระหว่างการอบรมท่านเห็นอะไรบ้างท่ีโรงเรียนลําปลายมาศพัฒนา
  • -  ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการไปอบรมท่ีโรงเรียนลําปลายมาศพัฒนา
  • -  ส่ิงท่ีคุณคิดว่าเป็นนวัตกรรมท่ีสามารถนํามาเป็นสร้างเป็นวิถีของตนเองและโรงเรียน
หมายเหตุ 1. ทีมวิทยากรให้เพ่ิมเติมหลักสูตรการอบรมและตารางการอบรมได้ตามความเหมาะสม 2. แนะนํา Webpages Facebook โครงการครูงอกนอกกะลา

7. งบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 2,800 บาท ( จากการลงทะเบียน คนละ 100 บาท )

เป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินการ (ค่าอาหาร/เคร่ืองด่ืม เอกสารฯลฯ)
8. ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ
1. ผู้เข้าอบรมเข้าใจแนวคิดของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ PBL (Problem – based

Learning) และนําไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผู้เข้าอบรมสามารถนําความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
3. ผู้เข้าอบรมสามารถนําความรู้ไปใช้แก้ไขปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้

9. ติดตามประเมินผล
ประเมินผลโดยการสังเกต นิเทศติดตามผล

                                              ลงช่ือ .................................. ผู้เสนอโครงการ (นายศรัญกร ใบยา )
                                                          ตําแหน่ง ครูในโครงการ “ครูงอกนอกกะลา”
                                              ลงช่ือ .................................. ผู้อนุมัติโครงการ (นายดรุณ ไชยธวัช)
                                                          ตําแหน่ง ผู้อํานวยการโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพท่ี 166 

ผลการจัดกิจกรรม
คุณครูโรงเรียนสว้า ยังไม่รู้จุดมุ่งหมายในการไปอบรมที่โรงเรียนลำปลายมาศแต่ก็พยายามทำความเข้าใจ เพื่อที่จะเกี่ยวกับในสิ่งที่เห็นมากระจายผลให้มากที่สุดหลักจากการจัดอบรมครั้งนี้ได้รู้ถึงความรู้สึกและความเข้าใจของคุณครูโรงเรียนสว้า เขาสนใจและประทับใจกิจกรรมจิตศึกษามาก และเมื่อกับจาการไปอบรมมาได้นำมา ทดลองทำในชั้นเรียนของตนเองแต่ได้ผลไม่เท่าไรเพราะเป็นระยะเพียงสั้นๆใกล้ปิดเทอม 
คุณครูโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166 เมื่อได้ไปอบรมที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เรียนรู้วิถีชีวิตของเด็กอนุบาลทั้งวัน และสร้างแผนเล็กๆของการเรียนรู้ของเด็กอนุบาล
คุณครูโรงเรียนบ้านปงสนุก จะคล้ายโรงเรียนบ้านสว้า เพราะไปพร้อมกันได้มีเหมือนกันแต่ยังไม่ได้นำผลไปทดลองเพราะกลับมาโรงเรียนปิดเทอมพอดี

เมื่อจัดอบรมในครั้งนี้แล้วได้รู้ความรู้สึกและความเข้าใจแชร์ประสบการณ์ที่ได้เห็นที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาของคุณครูแต่ละท่าน รู้ถึงการวางแผนการจัดการเรียนการสอนรวมตัวกันกับผู้อำนวยการทั้ง 3 โรงเรียน สร้างความสัมพันธุ์ระหว่างเครือข่ายโรงเรียนที่เข้าสู้ศตวรรษที่ 21

สัปดาห์หน้า
วันจันทร์เวลา 14.30 น. ประชุมกับคุณสเวนเกี่ยวกับไอที
เครียงาน







วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

 AAR

กิจกรรมสัปดาห์นี้ ( 29 – 3 ตลุ าคม 2557 )
     ในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่เริ่มสอบและปิดภาคเรียนกันเกือบทุกโรงเรียน ในส่วนของโรงเรียนบ้านนาหนุนสองในวันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2557 ช่วยคุณครูรวบรวมเก็บผลงาน แผน เกี่ยวกับการเรียนการสอน PBL เพื่อจะนำขึ้น Blogger  และความงอกงามของการเรียนการสอน
ในวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2557 คุณครูโรงเรียนบ้านนาหนุนสองเรียนรู้การนำผลงานและแผนขึ้นบล๊อก โดยมีทีมครูงอกนอกกระลาเป็นพี่เลี้ยง แนะนำ และช่วยเหลือ เมื่อนำขึ้นบล๊อกแล้วเกิดมีปัญหากับการสร้างบล๊อกจึงปรับเปลี่ยนการลงผลงานและแผนที่บล๊อกเป็น google site ง่ายกว่ากันมากคุณครูเรียนรู้เกี่ยวกับ google site ไปพร้อมกับงานงอกนอกกระลา วันที่ 3  ตุลาคม 2557 google site  ของคุณครูบางส่วนเป็นรูปเป็นร่างความสำเร็จมากมีพัฒนาการที่เร็วมาก








 

สัปดาห์หน้าวันที่ 6 -9 ตุลาคม 2557 
      ติดตามผล และดูแลช่วยเหลือ คุณครูโรงเรียนบ้านหนุนสองเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์เพราะคุณครูส่วนมากมีอายุมากแล้ว นำแผนและผลงานลง  google site 



วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557



        สายลมกับทุ่งหญ้า เป็นหนังสือที่ทำให้มีความรู้สึกที่หลากหลาย อบอุ่น อ้างว้าง สนุกสนาน สดชื่น หดหู่ใจ เปลี่ยนแปลงไปตามกาล เรื่องราวของกายกับตาคำ บ่งบอกการดำเนินไปตามวิถีของคน บอกเล่าถึงความผูกพันของ 2 คนสองวัย ปลดปล่อยความรู้สึกนึกคิดและให้มีจินตนาการในกรให้ชีวิตอย่างมีค่าให้เดินอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มีคัยหยุดมันได้ สายลมที่พัดผ่านในฤดูต่างๆบอกการดำรงชีวิตของคนอีสาน ในฤดูแห้งแล้งไม่มีข้าวกิน มันหดหู่ใจยิ่งนัก ขาดแครนความเป็นอยู่ต้องดิ้นรนให้ชีวิตได้อยู่รอดทั้งคนและสัตว์มีการพรัดพรากจากคนที่รัก เป็นฤดูที่ดูโหดร้ายมาก แต่เป็นการสร้างความอดทนได้ฝึกการเตรียมกับมัน เหมือนเป็นอุปสรรค์ที่ผ่านเข้ามา แล้วเป็นประสบการณ์ที่ดีสอนให้เรียนรู้ ให้ยอมรับมัน ตาคำสอนให้กายเรียนรู้การใช้ชีวิตได้อยู่รอดตามวิถีฝึกการใช้ชีวิตกับธรรมชาติตามกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนจากเด็กตัวเล็กที่อยู่กับตา เข้าโรงเรียนเจอกับสิ่งใหม่ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ไปถึงจุดหมาย เหมือนนิทานของคำเรื่องเด็กชายจะไปเก็บดาว ความมุ่งมั่นที่จะไปเก็บดาว อย่างไม่ย่อท้อตามความฝัน การเป็นผู้ครอบครองถึงไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นเพียงแค่อาศัยเหมือนเราอาศัยอยู่บนแผ่นดินแต่ปัจจุบันทุกคนต้องการครอบครองแผ่นดินโดยไม่คิดว่าเราอยู่บนแผ่นดินเพียงแค่อาศัยเท่านั้น แผ่นดินในเมืองใหญ่ดูเหมือนจะสวยแต่มีแต่ความวุ่นวาย การออกจากความอบอุ่นจากคนเป็นที่รักมันอ้าวว้างสุดจะบรรยาย แต่เราต้องไปหาจุดเป้าหมาย ถ้าเราเดินอยู่บนวิถีทางที่ดีมันจะนำเราไปสู่ที่ที่ดีแน่นอน สุดท้ายเศร้าที่สุดอดที่จะน้ำตาไหลไม่ได้คือการ การพลัดพลากและวันอำลา เราไม่อาจรั้งสิ่งใดไว้ได้หรอก เราได้แต่รักขณะที่ยังรักได้เท่านั้น บางสิ่งที่เรามองเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเสมอไปเปรียบดังงูเขียวกินตับตุ๊กแก

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

AAR วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันอังคารได้ทำกิจกรรมจิตศึกษาร่วมกับครูประจำชั้นปี่ที่ 6 
ชื่อกิจกรรม ลองกองบอกความรู้สึก

เป้าหมาย
- พัฒนาทักษะการคิด
- มองเห็นความแตกต่างของสิ่งต่างๆ
- เห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัว
- บอกความรู้สึก ใคร่ครวญความรู้สึก

การดำเนินกิจกรรม
   ในกิจกรรมมีการให้เด็กเตรียมความพร้อมแต่เป็นเด็กโตแล้วเด็กจะรู้ตัวเอง พัฒนาการคิดโดยโดยการให้คิดท่าทางต่อจะครูเริ่มฝึกให้คิด ครูส่งลองกองให้แต่ละคนคนละ 1 ลูก สังเกตใคร่ครวญลองกองของตัวเองว่ามีความวิเศษที่เป็นตัวเขาอย่างไร เมื่อสังเกตแล้วนำมาวางไว้กลางวงกลมให้คนอาสาสลับลูกลองกอง และให้ออกไปหยิกของตนเองทีละคน เมื่อคนได้ของตนเองชิมลองกองของตัวเองบอกความรู้สึกและให้โจทย์ต่อว่า คิดว่าลำต้นของลองกองเป็นอย่างไร

ผลที่ได้จากกิจกรรม
  เด็กเริ่มคิดมากขึ้น รู้ตัว เป็นผู้นำและผู้ตาม เด็กบางคนเริ่มคิดได้อย่างมีเหตุผล สรุปจากที่ได้ทำจิตศึกษาเด็กเล็กๆชั้นเล็กจะกล้าแสดงออกมากว่าชั้นโต ขยันคิดมากกว่าชั้นโต มีความคิดที่แตกต่างกว่าชั้นโต ชั้นป.6 เขาจะเป็นตัวของตัวเองมาขึ้น ครูต้องหาวิธีกระตุ้นให้เขากล้าแสดงออกให้มากขึ้น













วันพุธสอนเด็กอนุบาล 2
  ฝึกตัวเองให้เก็บเป็นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านพานให้อยู่เพราะแต่ละคนมีความวิเศษเป็นตัวของตัวเองมาก มีความอยากรู้อยากเห็นมาก แต่คนที่ไม่นิ่งเป็นเด็กที่ฉลาดคิดมีเหตุผล ปัญหาที่เด็กไม่ค่อยนิ่งอาจจะเป็นเพราะครูไม่ค่อยได้อยู่ในชั้น แตกต่างจากเด็กอนุบาล 1 ที่มีครูอยู่ในชั้นเรียนเป็นประจำเขาจะพูดง่าย ดูแลตัวเองได้ดีกว่า เด็กอนุบาล 2 บางคนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ต้องเรียกชื่อบ่อยครั้งเริ่มกิจกรรมจิตศึกษาเด็กจะเริ่มนิ่งถ้าเริ่มทำกิจกรรม ได้คิดปัญหาเรื่องการคิดและการกล้าแสดงออกไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือเขาไม่ยอมซึ่งกันและกัน ไม่นิ่งต้องเก็บตลอดเวลา Body Scan ยากที่จะทำต้องมีคนคุมอยู่ใกล้ชิดกับเด็กมากขึ้นบอกให้เขาดูแลตัวเอง เหมือนเด็กบางคนจะต่อต้านกิจกรรมเพราะเขาไม่รู้ว่าครูให้เขาทำอะไร มีความสงสัยมาก อาจเป็นเพราะเริ่มสร้างวิธีใหม่ปรับตัวยังไม่ทัน

วันพฤหัสบดี
    ประชุมที่โรงเรียนบ้านพานเกี่ยวกับการเรียนการสอน PBL
การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมร่วมกับครูทุกคนที่ต้องมีตัดสินใจในการสอน PBL กับการสอนในโครงการการศึกษาทางไกลผ่านจานดาวเทียมตามนโยบายของรัฐบาล โรงเรียนมีการประชุมโดยมีการทกเทียงเลือกการที่จะใช้ในการสอนแต่ละคนก็มีเหตุผลในการเลือกให้ผู้อำนวยการตัดสินใจว่าจะเลือก PBL หรือ การสอนในโครงการการศึกษาทางไกลผ่านจานดาวเทียมตามนโยบาย ผลสรุปในที่ประชุม
เรื่อง แนวทางปฏิบัติการทำงานของโรงเรียนบ้านพาน รูปแบบ  การสอนแบบ PBL (Problem-based Learning)

หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมกับคณะครูโรงเรียนบ้านพาน ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครูไม่สามารถที่จะหารือข้อตกลงเกี่ยวกับการทำงานได้ตั้งแต่ที่เริ่มต้นของ”โครงการ Mini LPMP ของมูลนิธิเวปทูไทยเดิม"ซึ่งทำให้การทำงานไม่ราบรื่นมีแต่ปัญหาและอุปสรรคต่างๆในการบริหารและการทำงานอยู่เรื่อยมาคณะครูส่วนมากก็เห็นต่างในความคิดของผู้บริหาร ฝ่ายวิชาการโรงเรียนก็มองอีกแบบจึงทำให้ครูในโรงเรียนสับสนว่าจะเรียกรูปแบบไหนแบบ PBL (Problem-based Learning) หรือ โครงการเรียนผ่านดาวเทียมของโรงเรียนวังไกลกังวลจึงทำให้ครูเป็นกังวนมากในเรื่องของคะแนนผลสัมฤทธิ์ O net , NT ของโรงเรียนจึงได้สรุปแนวคิดและมุมมองผู้บริหารและคณะครูได้ดังนี้คือ

ด้านผู้อำนวยการ นายเจริญ หล้าแก้ว โรงเรียนบ้านพาน 
    ในมุมมองของครูโครงการครู"งอกนอกะลา"การบริหารผู้อำนวยการโรงเรียนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ความรู้รวมของการเรียนการ สอนแบบ PBL (Problem-based Learning) และไม่มีความกระตือรือร้นที่จะค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการเรียนารสอนแบบ PBL (Problem-based Learning)ทำให้การบริหารงานในโรงเรียนไม่ได้และยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการเรียนสอนในมุมของผู้บริหารรวมทั้งไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนรวมถึงการบริหารงานไม่ชัดเจนทำให้คณะครูขาดผู้นำในการทำงานแบบ PBL (Problem-based Learning) ส่วนด้านชุมชนผู้อำนวยการยังขาดสื่อสารปฏิสัมพันธ์เชิงบวกร่วมกับชุมชนโดยภาพรวมแล้วไม่สามารถที่จะนำทีมในการทำงานได้

ด้านครู
   หลังจากที่ประชุมคณะครูยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่มากในการสอน PBL และได้ความคิดเห็นของครูโดยรวมดังนี้
- ยังไม่เข้าใจการทำกิจกรรมโดยรวม
- การใช้คำถามในการกระตุ้นนักเรียน
- การเชื่อมโยงในแต่ละสาระวิชา
- ยังห่วงการวัดผลประเมินผล
- การใช้ภาษาในการเขียนแผน
- ความพร้อมของนักเรียน การอ่าน การเขียน

    โดยรวมแล้วครูส่วนมากไม่พร้อมที่จะร่วมมือหรือปฏิบัติขาดความรู้ความเข้าเกี่ยวกับการสอน PBL ทำให้ครูท้อรวมถึงผู้นำไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งหรือเป็นหลักการทำงานได้
ครูปิยะนุช พุฒหมื่น ความคิดเห็นคือครูนุชยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการสอน(ชง เชื่อม ใช้) เนื้อหา(มุมมองหรือภาพรวม) วัดผลประเมินผล(ชิ้นงานหรือภาระงานเชื่อมโยงไปหาแต่ละสาระว่าจะประเมินอย่างไร)
 ครูประไพ ชมพูมิ่ง ความคิดเห็น คือครูนุชยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการสอน(ชง เชื่อม ใช้) เนื้อหา(มุมมองหรือภาพรวม) วัดผลประเมินผล(ชิ้นงานหรือภาระงานเชื่อมโยงไปหาแต่ละสาระว่าจะประเมินอย่างไร) และมองว่าเด็กไม่พร้อมที่จะเรียนแบบ PBL  ขาดความกระตือรือร้น
ครูคำมั่น ไชยยะ ความคิดเห็นว่าการเรียนการสอน PBL บางสิ่งบางอย่างเราค่อยปรับค่อยเปลี่ยนวิธีการสอนไปทีละน้อย และขยายผลวิธีการสอนให้ชุมชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่โรงเรียนได้ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันนี้
ครูนฤมล ตนภู ความคิดเห็นคือการเรียนการสอนที่ทางโรงเรียนปฏิบัติอยู่ โรงเรียนยังขาดการสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์เชิงบวก กับชุมชน
ครูวิภาพร ล่ำสูง ความคิดเห็นคือ ให้สอนในรูปแบบของโครงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม วังไกลกังวล ในช่วงเวลา 08:30-14:30 น.
และสอนแบบ PBL (Problem-based Learning) ให้เด็กนักเรียนเรียกเรียนเรื่องที่สนใจในรูปแบบโครงงานในช่วงเวลา 14:30-16:30 น.

สรุป

โรงเรียนบ้านพานยังไม่พร้อมจะทำการเรียนการสอนในรูปแบบPBL (Problem-based Learning) อาจยุติการร่วมมือการเรียนการสอน PBL แต่ยังคงนำกิจกรรมจิตศึกษาและกิจกรรม Body Scan เข้าร่วมใช้ในชั้นเรียน

วันศุกร์
    ช่วงเช้าเดินทางไปโรงเรียนบ้านนาหนุนสองและช่วงบ่ายไปโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166 เพื่อปรึกษาหากันเกี่ยวกับการวางแผนของ Quarterที่3 นัด PLC ของแกนนำเรื่องการวัดผลประเมินผลเพื่อที่จะให้ 2 โรงเรียนไปในทิศทางเดียวกันและมีความเข้าใจให้ครูทุกคนเข้าใจในการวัดผลประเมินผล ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ตระหนักของครูหลายๆตน ซึ่งมีการวางแผนว่าแกนนำนำจะ นัดกัน PLC วันที่ 23-24 ตุลาคม 2557 ที่โรงเรียนบ้านนาหนุน และขอความเคลื่อนไหวที่งอกงามของโรงเรียนให้โรงเรียนประเมินนักเรียนภาพรวมของโรงเรียนของการเรียนการสอนเกี่ยวกับ PBl ที่ผ่านมาและขออนุเคราะห์ให้คุณครูทุกท่านประเมินตัวครูเองและประเมินนักเรียนของตนเองพร้อมความงอกงามในการเรียนการสอนที่ผ่านมา และแจงเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนบ้านพานเพื่อจะมีทางช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ป่ากลางแจงการเดินทางไปอบรมที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2557

สัปดาห์หน้า
    มีการวางแผนว่าจะเดินทางไปโรงเรียนนาหนุนสองเพื่อช่วยคุณครูนำผลงานขึ้นบล๊อก เพราะครูที่โรงเรียนค่อนข้างไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์อายุมากแล้ว



วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

   PLC กลุ่มเครือข่ายของโรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166 โรงเรียนบ้านนาหนุนสอง โรงเรียนบ้านพาน
   
      จากการที่ได้ร่วมงานกันในการอบรมในครั้งนี้ได้เรียนรู้การประสานงานการร่วมมือกันอย่างมีความสุข อาจจะเป็นภาระงานที่ยากพออยู่สมควร แต่ทุกคนที่เป็นทีมงานก็สามารถวางแผนทำให้งานวันที่ 19 กันยายน  2557 ผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีกำหนดการอบรมเครือข่ายครูงอกนอกกระลา
กิจกรรมจิตศึกษา
 ดิฉันรับหน้าที่เป็นผู้นำทำกิจกรรมจิตศึกษา เป็นกิจกรรมพิธีจัดดอกไม้
เป้าหมาย
1. มีสมาธิ
2. เห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ
3. พัฒนาทักษะการคิด
4. ได้ความคิดสร้างสรรค์
วิธีการดำเนินกิจกรรม
เล่าเรื่องชีวิตของเจ้าลาฝึกทักษะการคิด
ให้ครูเก็บสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวแล้วนำมาวางไว้บนผ้าที่อยู่กลางห้องแล้วนำสิ่งนั้นมามาจัดเป็นสิ่งงานของตัวเองตั้งชื่อ อธิบายความหมายว่าเป็นตัวเขาอย่างไร
นำสนอมี 2 วิธี
1.นำเสนอของตัวเอง
2.เลือกฟังความคิดของใครก็ได้
นำการสอน PBL สู่สาระวิชาหลัก
กิจกรรม Body Scan
การวัดผลประเมินผล
พิธีชา
ถอดบทเรียน AAR
การนำไปใช้
      ผลที่ได้จากการ PLC ครั้งนี้เป็นการสร้างเครือข่ายให้แข็งแรง หรือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจของคุรครูที่เห็นต่างให้มองเห็นทางเดียวกัน ไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นกำลังใจให้ครูที่กำลังจะเริ่มการเรียนการสอนแบบ  PBL ครูส่วนมากพึงพอใจในโครงการกระบวนเรียนรู้สู่ศตวรรษ 21





ความคืบหน้าในการเปลี่ยนแปลงหลังจากการสาธิต
บทสะท้อนการ AAR ของคุณครูประจำชั้น 
วันพุธที่ 17 กันยายน 2557
ครูอนุบาล
การกล่าวคำชื่นชมให้เด็กนั้นทำให้เด็กภูมิใจในสิ่งที่ตนเองกำลังทำ
การใช้คำว่า เด็กๆสามารถดูแลตัวเองได้ ได้ไหม เป็นการกระตุ้นให้เด็กกลับมารู้ตัวเองเพื่อที่จะได้รู้ว่าควรหยุดทำสิ่งนั้น
การสร้างวิถีให้กับเช่นก่อนเข้าห้องต้องรอคุณครูเพื่อเคารพ การรับประทานอาหารเมื่อพร้อมแล้วทุกคนจะต้องพนมมือเพื่อรอเพื่อนที่ยังไม่พร้อม
การปรับคลื่นสมองก่อนเข้าสู่บทเรียน เด็กรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขพร้อมที่จะเรียนรู้
การกล่าวยกย่อง คำขอบคุณ เด็กๆจะกล้าแสดงออกมากขึ้น
การใช้คำพูดเพื่อดึงดูดความสนใจทำให้เด็กอยากที่จะเรียนรู้มากขึ้น
เด็กเริ่มรักกันมากขึ้น ให้อกเห็นใจเพื่อนที่ไม่มาโรงเรียน รู้สึกห่วงใย


ครูคำหมั้น ไชยยะ
วันนี้คุณครูจัดกิจกรรมจิตศึกษาลูกเต๋าแสนกล
 เป้าหมายครูต้องการให้เด็กได้ทักษะการสังเกต
การจัดกิจกรรม
ครูให้นักเรียนนั่งสมาธิ แผ่เมตตา
ครูชูลูกเต๋าแสนกล ขึ้นแล้วใช้คำถามว่า สิ่งที่ครูชูขึ้นคืออะไร มองเห็นอะไรบ้าง เป็นอย่างไร นักเรียนแต่ละ ก็จะตอบความเป็นจริงที่มองเห็นตามที่ครูหันด้านให้ดูลูกเต๋าให้ดู
ครุให้เด็กนักเรียนร้องเพลงนับเลข 1-10 ทำท่าประกอบตามนับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2557
ครูผกามาศ ศักดิ์ดำ ครูประจำชั้นปีที่ 3
จากการเข้าร่วมกิจกรรมจิตศึกษาในวันนี้ของนักเรียนชั้นป. 3 สิ่งที่คุณครูได้รับจากกิจกรรมนั้นคือ
การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน จากที่สังเกตเห็นได้ว่าจะเริ่มกิจกกรม โดยการเล่าสิ่งที่ได้พบเจอในขณะเดินทางว่าเจอกับสิ่งต่างๆ จากนั้นก็กระตุ้นเด็กโดยการตั้นคำถามว่า ในการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน นักเรียนพบเจออะไรบ้าง ซึ่งนักเียนก็สามารถบอกเล่าในสิ่งที่ตัวเองเจอได้
ครูได้เห็นการที่พัฒนาของเด็กในด้านการคิด นักเรียนส่วนใหญ่เริ่มที่จะมีความคิดเป็นของตนเองมากขึ้น อีกทั้งยังกล้าที่จะตอบแบบมั่นใจในสิ่งๆนั้น
นักเรียนเริ่มรู้หน้าที่ของตนเองถึงแม้สิ่งที่แสดงออกยังไม่ดีมากเท่าที่ควร แต่นักเรียนก็เริ่มเกิดการตื่นตัวในทางที่ดี เช่นการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เจอ
นักเรียนมีความสนุกกับกิจกรรมที่ครูกุ้งนำเสนอ

ครูประไพ ชมพูมิ่ง
      วันนี้ครูกุ้งได้กรุณามาฝึกกิจกรรมจิตศึกษาให้เด็กนักเรียนชั้นประจำชั้นปีที่ 3 และ 4 จากกิจรรมที่ได้ทำในวันนี้ ผลที่ได้รับ คือนักเรียนทุกคน มีความตั้งใจในการร่วมกิจกกรม รับฟังและปฏิบัติตามคำชี้แนะของครู นักเรียนได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ สามารถถ่ายทอดความรู้นึกคิด ออกมาอย่างมีเหตุผลกล้าแสดงออก มีสมาธิและนิ่งได้ดีขึ้นกว่าเดิม
      นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  3 - 4 ร่วมกันบอดี้สแกน เพื่อผ่อนคลาย พร้อมที่จะเรียนในภาคบ่าย จาการสังเกต นักกเรียนให้ความร่วมมือดีมาก สงบนิ่งไม่เสียงดัง ไม่วุ่นวาย พร้อมที่จะรับในสิ่งใหม่ๆ ครูมีส่วนสำคัญมากที่สามารถร่วมกิจกรรมกับเด็ก โดยเด็กยอมรับในกิจกรรมที่แนะนำ โดยเด็กร่วมกิจกรรมอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นผลดีต่อตัวโดยตรง พร้อมที่จะเรียนในภาคบ่ายต่อไป
       สุดท้ายขอขอบคุณครูกุ้งเป็นอย่างมากที่มีการสาธิต การทำกิจกรรมจิตศึกษา เวลาทำบอดี้สแกน ให้กับเด็กนักเรียนเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมในวันต่อไป ของครูประจำชั้น




วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2557

จิตศึกษาของพี่ปอ 3 - 4 โรงเรียนบ้านพาน

ชื่อกิจกรรม ดอกรักหรรษา

เป้าหมาย- ให้เด็กมีสมาธิ
- เป็นผู้นำและผู้ตาม
- เรียนรู้พยัญชนะต้น
- ให้เด็กเกิดทักษะการคิด

การดำเนินกิจกรรม- เตรียมเด็กให้พร้อม โดยการให้เด็กคิดท่าต่อกัน
- ครูชูกล่องให้ดูแล้วถามเด็กเห็นอะไร มี 3 คนเท่านั้นที่ตอบ
- ชูถุงดอกรักให้ดูแล้วถามต่อเห็นอะไร เด็กเริ่มมีคำตอบที่หลายหลายมีคนช่วยตอบหลายคน
- ให้เด็กส่งกล่องดอกรักให้กันโดยไหว้ก่อนรับและขอบคุณที่บริการ
- ให้เด็กสร้างพยัญชนะต้นชื่อเล่นของตนเองและนำเสนอ
- ให้เด็กสร้างอะไรก็ได้ที่เด็กอยากสร้าง เด็กสมารถสร้างสิ่งต่างที่หลากหลายและไม่เหมือนกัน


บันทึกหลังกิจกรรม     ความรู้สึกเราต้องใจเย็นให้เขาจัดการตนเองก่อน ตอนแรกเด็กไม่เข้าใจเป้าหมายของกิจกรรมคิดท่าต่อกันยังไม่สนใจรอคุณครูกระตุ้นบอกให้รู้ตัว ทำรอบที่สองเริ่มเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันแต่มีบางคนที่ยังดูแลตัวเองใม่ได้ยังไม่ยอมรับความคิดของเพื่อนบอกให้เพื่อนทำตามตนเอง รอบที่สามเด็กเข้าใจเป้าหมาของครูที่ถึงใครคนนั้นจะเป็นผู้นำที่ให้เพื่อนทำตามทำต่อกันจนถึงคนสุดท้าย กิจกรรมให้เด็กสร้างพยัชนะต้นของชื่อเล่นของตนเอง เด็กเริ่มกล้าพูดมาขึ้น กิจกรรมสร้างอะไรก็ได้เด็กสร้างที่ตนเองคิดเอง กล้านำเสนอผลงานของตนเองให้เพื่อนฟัง ไม่ต้องให้ครูเรียกชื่อ เด็กเกิดความกล้าแสดงออกถ่ายทอดความรู้สึก ทุกคนเริ่มยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน วันนี้กิจกรรมผ่านไปด้วยดี เด็กสนใจในกิจกรรมมาก และตั้งใจ เป็นเด็กน่ารักทุกคน











วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

วันพุธที่ 17 กันยายน 2557
จิตศึกษาของพี่ป.2 

ชื่อกิจกกรมไม้บล๊อกวิเศษ
เป้าหมาาย
-การสังเกตสิ่งต่างๆ
- การกล้าแสดงออก
- เห็นคุณค่าของสิ่งของ
- การเสียสละ

การดำเนินกิจกรรม
- เตรียมความพร้อมให้กับเด็กโดยท่าเบรนยิมอย่างช้าๆ
- เล่าเรื่องสร้างสตอรี่ให้เด็กได้เกิดความสนใจ วันนี้คุณครูเดินเข้ามาโรงเรียนเจอคุณลุง คุณลุงฝากของขวัญมาให้เด็กๆแต่ด้วย- - ภาระกิจของคุณลุงเยอะมา เอามาเองไม่ได้ จึงฝากคุณครูมาแทน 
- นำกล่องไม้บล็อกมาให้เด็กๆดู ถามว่าเด็กๆเห็นอะไรค่ะ
- ส่งกล่องไม้บล๊อกให้เพื่อนเขาจะไหว้ก่อนและขอบคุณที่ให้บริการ
- ให้เด็กสังเกตไม้บล๊อกของตนเองว่ามีลักษณะอย่างไร มีความเป็นตัวเองอย่างไร รู้สึกอย่างไรเมื่อได้สัมผัสไม้บล๊อก
- นำไม้บล๊อกไปวางตรงกลางวงกลมที่ละคนโดยจะรู้ตัวว่าใครจะไปวางก่อนจะไม่ไปวางพร้อมถ้ามีคนไปพร้อมจะต้องมีคนที่ต้อง- 
เสียสละให้เพื่อนวางก่อนมองจากความรู้สึกเอง
- ขออาสาสมัคร 1 คน ออกมาสลับไม้บล๊อกให้กระจาย
- ให้เด็กมองแล้วออกไปหยิบไม้บล๊อกของตนเอง
- กลับมานั่งสังเกตแล้วถ้าไม่ใช่ให้เอาไปวางที่เดิม(ให้รู้ตัวของตนเอง)
- เมื่อทุกคนได้ไม้บล๊อกของตนเองเราจะส่งไม้บล๊อกให้กับเพื่อนตามจังหวังเพลงไปพร้อมเสียงเคาะของไม้บล๊อก
- เมื่อเพลงจบถามความรู้สึกของเด็กและเริ่มอีก1ครั้ง ถามความแตกต่างจากรอบที่1และ2

บันทึกหลังกิจกรรม
     เด็กสนใจมากกับกิจกรรม เด็กๆตั้งใจ เด็กชอบกิจกรรมจิตศึกษา สังเกตเห็นเด็กเริ่มคิดกล้าตอบกล้าแสดงความคิดเห็นดีใจและภูมิใจมากที่กับเด็กคนหนึ่งซึ่งครูประจำชั้นบอกว่าไม่เคยอยู่นิ่งก่อกวน หรือมีปัญหาสมาธิสั้น แต่วันนี้ดิฉันชงให้เขาว่าวันนี้พี่ซูกัสจะเป็นผู้ช่วยครูดูแลเพื่อนทุกคนที่เพื่อนที่น่ารักเขาจะตั้งใจและอยู่ข้างดิฉันมองที่ดิฉันทำตามดิฉันเป็นเด็กน่ารักเหมือนกับเด็กปกติ และสามารถคำถามที่แตกต่างจากคนอื่นได้ดีมาก






Body Scan ของพี่ปอ 2
     เด็กๆสามารถดูแลร่างกายของตนเองได้ใช้เวลา 5 นาที เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำ Body Scan เตรียมร่างกายให้พร้อม ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย จิตใจมาอยู่กับตัวเอง ดูแลร่างกายของตนเองได้ เด็กบางคนที่ยังดูแลไม่ได้เราจะส่งกำลังใจไปให้ เมื่อเด็กพร้อมเราจะเล่านิทานให้เด็กได้จินตนาการตามวันนี้เป็นนิทานเรื่อง กระแตไล่ไม้ เป็นนิทานที่สอดแทรกการช่วยเหลือพ่อแม่สร้างความมีน้ำใจ และมีความรับผิดชอบ เมื่อเด็กลุกขึ้นมาเด็กถึงเหมือนจะนอนหลับแต่เขาสามารถตอบมามาได้ว่าเรื่องเล่าของนิทานสื่อให้เห็นถึงอะไร





วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557



การสร้างวิถีอนุบาลที่โรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่166


วันจันทร์
      วันนี้เริ่มทำกิจกรรม Body Scan กับเด็กอนุบาลชั้นปีที่ 2 เป้าหมาย ให้เด็กได้ผ่อนคลายร่างกาย สมองและจิตใจ ให้จิตใจอยู่กับตัวเอง เมื่อเด็กได้ผ่อนคลายแล้วเด็กจะตื่นตัวมากขึ้น นิ่งขึ้น มีสมาธิ ฟังครูและสนใจครูมากขึ้น เราจะให้เด็กมีคลื่นสมองต่ำทำให้เป็นคนจิตใจสงบ เยือกเย็น สุขุม มีอารมณ์ดี เบิกบาน ความคิดสร้างสรรค์สูง สมาธิสูง มีความจำดี และมีพลังความคิดด้านบวกสูง มองโลกในแง่ดี เราสามารถสอดแทรงคุณธรรมจริยธรรมไว้ในช่วงที่เด็กเริ่มนิ่ง มีสมาธิได้โดยเด็กจะซึมซับโดยไม่รู้ตัว เด็กบางคนอาจจะไม่นิ่งแต่เขายังนอนฟังเราจินตนาการตามเราแต่เราต้องมีเสียงเล่าเรื่องที่อ่อนโยน เสียงต้องมีอารมณ์จินตนาการตามบทนิทานตามไปด้วย
 

กิจกรรมจิตศึกษาการร้อยรูกระดาษตามจินตนาการ
เป้าหมาย
1. ให้เด็กมีสมาธิ รู้ตัว ใจจดจ่อ
2. เด็กมีความคิดจินตนาการสร้างสรรค์
3. เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น
4. ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
       

       วันนี้เริ่มทำกิจกรรม เด็กสนใจเรื่องที่เล่าให้ฟังที่เราสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขา มองตาสบตาเราเมื่อใช้ใช้สายตามองรอบๆเด็กทุกคน เด็กน่ารัก ตั้งใจมากสำหรับเด็กอนุบาล 2 เด็กตั้งใจทำกิจกรรมสามารถตอบเราได้ว่าเขาร้อยเป็นรูอะไร มีทั้ง ภูเขา บ้าน พัด จักรยาน สายรุ้ง และสามารถบอกเหตุผลได้ เด็กสามารถคิดได้สร้างสิ่งที่เขาเจอเป็นประจำ เป็นสิ่งอยู่รอบตัวเด็ก แต่ก็มีคนที่ยังไม่สามารถตอบได้ประมาณ 3 คนอาจเพราะภาษาเราเขายังไม่เข้าใจ เพราะส่วนมากเขาใช้ภาษาชนเผา ม้ง เมี้ยน
วันอังคาร
       วันนี้กิจกรรม Body Scan  ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 เด็กตัวเล็กๆมองดูคุณครูคนใหม่อย่างจริงจัง ด้วยความที่เขาเป็นเด็กมากคำบางคำเขายังไม่สามารถเข้าใจได้เขาจะมองที่ปากเรา เด็กน่ารักสามารถดูแลตนเองได้เป็นบางคน เขาจะใช้การสังเกตของเพื่อนรอบข้างว่าครูกำลังให้เขาอะไรอยู่ 
กิจกรรมจิตศึษาให้เด็กสร้างผลงานจากหลอดด้ายและเชือก
เป้าหมาย
1. เด็กมีความคิดสร้างสรรค์
2. เรียนรู้เกี่ยวกับสี
3. มีสมาธิจดจ่อ
4. รู้จักสังเกต


     เมื่อเด็กเริ่มทำกิจกรรมเด็กมีสมาธิเสียงที่คุยเริ่มหายไปตอนที่ครูบอกว่าเริ่มทำได้ เด็กจดจ่ออยู่กับรูที่เขาพยายามเอาเชือกสอดรูเข้าไป เด็กเรียนรู้สีจากสีเชือกสีต่างๆและสีจากหลอดด้าย เด็กบางคนสามารถบอกได้ ปัญหาที่พบกับอนุบาล 1 เด็กฟังเราไม่รู้เรื่อง ต้องพูดช้าๆ หาคำที่เข้าใจง่าย แต่เห็นเด็กๆพยายามฟังเรามองเราก็รู้สึกชื่นใจ

กิจกรรมการมอบความรัก
       สังเกตเด็กบางคนดีใจที่จะได้กอดกับครู เขาจะนั่งเป็นเด็กที่น่ารักรอคุณครูเรียก ตั้งอกตั้งใจมาก เมื่อเขาได้กอดเราเขายิ้มอย่างมีความสุข บางคนก็เขินอาย บางคนก็กอดเรานาน ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่าเด็กบางคนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ไม่มีผู้ใหญ่ดูแลก็มีอยู่กับพี่ๆอย่างโดดเดี่ยว ขาดความอบอุ่น เมื่อเด็กได้รับความรักของคุณครูก็อาจจะเติมเต็มส่วนที่ขาดได้บ้าง